วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เปิดเบื้องลึกการฆ่าและซ่อนศพสามีตัวเองกว่า 20 ปี คดีสะเทือนขวัญในประเทศญี่ปุ่น

Koike Asae โคอิเคะ อาซาเอะ หญิงชราวัย 79 ปี
ให้การรับสารภาพว่า เธอได้ฆ่าสามีและซ่อนศพของเขาไว้ในบ้านเป็นเวลานานกว่า 20 ปี
โดยเธอใช้มีดทำครัวแทงเข้าที่หัวและคอของสามี หลังจากทนถูกทุบตีและทรมานมาเป็นเวลานาน
หลังจากนั้น เธอได้ซ่อนศพของสามีไว้ในบ้าน นานนับสิบ ๆ ปี

เผยแรงจูงใจของการฆาตกรรมอำพรางในครั้งนี้ 
เธอถูกสามีทำร้ายเป็นเวลานาน นับตั้งแต่หลังจากการแต่งงาน และยังคงถูกทุบตีทุกวันแม้ว่าเธอจะกำลังตั้งท้องลูกคนที่สองก็ตาม สามีของเธอก็ยังไม่ปราณี ยังคงเตะและใช้ความรุนแรง ส่งผลให้เธอแท้งลูก เหตุการณ์ครั้งนั้นกระทบกระเทือนจิตใจเธออย่างมาก จนเธอเริ่มมีอาการทางจิต แต่สามีของเธอกลับไม่สนใจ และไม่ยอมให้เธอเข้ารับการรักษา เธอไม่สามารถออกไปไหน หรือไปพบปะกับใครได้เลย เธอต้องทนอยู่กับความโดดเดี่ยวที่แสนจะทรมานในบ้านหลังนั้น

"เมื่อแต่งงานไปแล้ว เธอก็เหมือนสมบัติของสามี"
นี่คือประโยคที่ผู้หญิงยุคนั้นจะได้ยินจนเป็นปกติ และต้องก้มหัวยอมรับประโยคนี้อย่างขมขื่น

และในวันที่ความอดทนถึงขีดสุด
เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากเธอถูกสามีใช้ไม้เท้าฟาดใส่เธอจนหัวแตกเลือดอาบ ขณะที่เธอกำลังทำอาหารเย็น เธอจึงใช้มีดทำครัวที่อยู่ในมือแทงไปที่หัว และลำคอของเขา จนขาดใจตายในที่สุด
หลังจากนั้น เธอได้เอาศพของเขาไปซ่อนไว้ตรงกำแพงห้องเก็บของ และกลับมาเช็ดทำความสะอาดรอยเลือด เป็นเวลาเดียวกับที่ลูกชายคนโตกลับเข้ามา เห็นบ้านที่เลอะเทอะไปด้วยคราบเลือด แต่ไม่ได้พูดอะไร หลังจากเก็บกวาดทุกอย่างเสร็จ สองแม่ลูกก็กินข้าวเย็นด้วยกัน และเข้านอนเป็นปกติโดยที่ไม่มีใครเอ่ยถึงพ่ออีกเลย เมื่อถูกถามว่า ลูกชายรู้เห็นกับการฆาตกรรมนี้หรือไม่ หญิงชราก็ให้การปฎิเสธว่า ลูกชายของเธอไม่รู้เรื่อง และในตอนนั้นเค้าก็ยังเป็นเด็กและไม่ได้รับรู้อะไร รู้เพียงพ่อไม่อยู่แม่ก็ไม่ถูกทุบตีอีกแล้ว เท่านั้นเอง

ในวันไต่สวน
ลูกชายของเธอถูกกันให้เป็นพยานในศาล เล่าว่า "ตลอดเวลาตั้งแต่เค้าจำความได้ แม่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของพ่อมาตลอด"

ผู้พิพากษาตัดสินว่า
"ความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญในการก่ออาชญากรรมของเธอ เธอจะถูกตัดสินจำคุก 5 ปี"
ในตอนท้ายผู้พิพากษายังเอ่ยว่า "หลังพ้นโทษ หวังว่าคุณจะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับลูกชาย โดยไม่มีอะไรติดค้างในใจอีกแล้ว"
นี่เป็นอีกหนึ่งคดี ที่ดูเหมือนว่า ฆาตกรที่ลงมือได้รับความเห็นอกเห็นใจจากศาลและคนทั่วไป มากกว่าเหยื่อที่เสียชีวิต

ที่มา ซากุระเที่ยงคืน #เรื่องเล่าจากญี่ปุ่น

0 ความคิดเห็น: