วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

โยมเช้า เช่าที่สงฆ์


ขณะวันหนึ่งยังพักอยู่ที่อำเภอสรรคบุรี ที่สระเมือง ก็มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อเช้า มาบอกว่านาของเธอทำไม่ดี ไม่ได้รับผลดี ก็ถามว่าโยมซื้อที่นานี่ซื้อมากี่ปีแล้ว โยมเช้าก็บอกว่าฉันซื้อมา ๕ ปี ก็ถามว่า โยม สังเกตรึเปล่า ว่าที่นาของโยมน่ะ ปกติมีพวกกระเบื้อง มีพวกอิฐมาก คล้ายๆ กับเป็นที่วัดเก่า โยมเช้าก็บอกว่าใช่เจ้าค่ะ ก็ตอบว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์ ถึงแม้ว่าโยมจะซื้อจากใครก็ตาม สิทธิของสงฆ์ยังไม่ขาด ในเมื่อสิทธิของสงฆ์ยังไม่ขาด ก็ถือว่าโยมเอาที่สงฆ์มาทำมาหากินโดยไม่ได้รับอนุญาต เธอก็ถามว่าจะทำยังไง ฉันจะขออนุญาตใคร ก็บอกว่าเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ตามแบบที่หลวงพ่อปานท่านเคยแนะนำ ว่าให้โยมเช่าที่สงฆ์ ถามว่านามีกี่ไร่ เธอก็ตอบว่านามี ๒๐ ไร่เศษ ให้เช่าที่ปีละร้อยบาท โยมจะเช่าได้ไหม แกบอกว่าได้ แกถามว่าจะเอาเงินไปให้ใคร ก็บอกว่าเงินให้เจ้าอาวาสวัดใดวันหนึ่งก็ได้ บอกว่าชำระหนี้สงฆ์ เช่าที่ดินทำมาหากิน จะเช่าอย่างนี้ตลอดไปจนกว่าจะสิ้นชีวิต แกก็ตกลง แกเลยบอกว่าถ้าอย่างงั้นปีนี้ฉันต้องจ่าย ๖๐๐ บาท ถามว่าทำไมต้องจ่ายถึง ๖๐๐ บาท แกบอกว่าทำมา ๕ ปีแล้วเจ้าค่ะ ปีละร้อย ปีนี้อีกปี ๑๐๐ บาท ก็เป็น ๖๐๐ บาท เลยถามว่าหนักใจไหม เวลานั้นค่าของเงินยังสูง ก๋วยเตี๋ยวยังชามละ ๒๐ สตางค์ แกบอกว่าไม่หนักใจ หลังจากนั้นแกก็นำเงินมาถวาย ๖๐๐ บาท จึงได้มอบให้เจ้าอาวาส บอกว่าเงินจำนวนนี้จะใช้เป็นส่วนตัวไม่ได้ ต้องใช้แต่เรื่องของสงฆ์โดยเฉพาะ จะเป็นเงินก่อสร้างก็ตาม ซื้ออาหารถวายพระก็ได้ เป็นสังฆทาน ให้เป็นเรื่องของสงฆ์ไปไม่ใช่เงินส่วนตัว เจ้าอาวาสก็รับคำ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ พอรุ่งอีกปีหนึ่ง ก็เดินทางไปเทศน์อีก มาเที่ยวนี้ปรากกว่าโยมเช้าเล่าให้ฟัง บอกว่าเมื่อปีที่แล้วเป็นเรื่องแปลก หลังจากชำระหนี้สงฆ์แล้ว ก็ลงมือทำนา หว่านข้าว ก็ข้าวขึ้นดี ก็ปรากฏว่าฝนแล้งติดต่อกัน ๒-๓ เดือน ช่วงกลางปี ข้าวของคนอื่นเสียหมด ต้องไถใหม่หว่านใหม่ แต่ว่าของฉันเขียวชอุ่มไม่ต้องหว่านใหม่ ไมต้องไถใหม่ ไม่เสียหายเลย เลยบอกว่า โยมทำถูกต้องมันก็ดีแบบนี้แหละ อย่างนี้ก็ถือว่าเป็นการเดา ความจริงไม่ได้มีความรู้จริง ที่ถามแกบอกว่าที่ของโยมอาจจะเป็นที่วัด นั่นก็ไม่ใช่มีตาทิพย์ แต่ตามที่สังเกตในเมืองสรรคบุรี เป็นเมืองด่านเก่า สมัยก่อนมีการรบราฆ่าฟันกันมาก วัดวาอารามก็พัง บางวัดบางสถานที่ มีที่ประมาณ ๒ ไร่ก็มี บางที่เหลือที่เขตวัด ๑ ไร่ก็มี แสดงว่าการสร้างวัดซับซ้อนกัน หมายความว่าวัดเก่าพังไป ก็สร้างวัดใหม่ ชื่อเดิมของวัดเก่าก็คงไว้ ขยักที่ไว้หน่อยหนึ่ง แล้วสร้างวัดใหม่ทับลงไป ขยายที่ออกมา เป็นอันว่าการเดาเป็นของไม่แปลก ที่เธอบอกว่าที่ธรณีสงฆ์ ถึงแม้จะเป็นวัดขุดก็ตาม เป็นวัดที่มีพระอยู่ก็ตาม วัดที่ไม่มีพระอยู่ วัดร้างก็ตาม เหลือแต่อาคารพังๆ ก็ตาม หรือไม่มีอาคารเลยก็ตาม แต่ที่เขาถวายเป็นที่ของสงฆ์แล้ว สงฆ์ยังไม่ขาดสิทธิ สิทธิของสงฆ์ยังมีอยู่ นี่เรื่องของโยมเช้าก็น่าคิดเช่นเดียวกัน ว่าอยู่ๆอาตมาก็เดาส่งเดช บังเอิญไปตรงเข้า และในที่สุด แกทำอย่างนั้นทุกปี นาแกไม่เสีย ชาวบ้านเสียเท่าไรก็ตาม แกไม่ยอมเสีย ก็รู้สึกว่าภายหลังต่อมา รู้สึกว่าเป็นคนมีกินมีใช้มากขึ้น เป็นผลของนาดีฯ

0 ความคิดเห็น: