วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

บทเรียนจากความมั่นใจในตัวเองที่มากเกินพอดี





บทเรียนครั้งสำคัญของนักบิน การสูญเสียที่เกิดจาก
ความมั่นใจจนเกินเส้นที่เรียกว่า”ความปลอดภัย”
—————————————————————

นาวาอากาศโท อาเธอร์ “บัด” ฮอลแลนด์

เป็นนักบินที่เพื่อนร่วมงานจำกัดความไว้ว่า
“เขาอ้างว่าตนเองเป็นนักบิน B-52 ที่ดีที่สุดในโลก 
อีกทั้งยังภูมิใจในการแสดงการบินที่ไม่เหมาะสมและไร้ความรับผิดชอบ”

บัด เป็น ”นักบินไร้ระเบียบ”
ที่กองทัพอากาศสหรัฐทราบดี
และยังปล่อยให้ทำการบินแบบเสี่ยง ๆ มาเป็นเวลาหลายปี

ข้อจำกัดในคู่มือการบิน
เขาทำเกินมาทุกอย่าง

พานักบินและลูกเรือ
เฉียดจุดจบชีวิตหลายรอบ
จนนักบินคนอื่นไม่มีใครกล้าที่จะบินด้วย

24 มิถุนายน ค.ศ.1994
ณ ฐานทัพอากาศ Fairchild วอชิงตัน

บัด ต้องการแสดงการบินเหนือสนามบิน
นามเรียกขาน “CZAR 52”

ทุกคนทราบดีว่านี่คือการเสี่ยงอันตรายอีกครั้ง

นาวาอากาศโท มาร์ค แมคกีแฮน
ผู้บังคับฝูงบิน 325
จึงต้องอาสาขึ้นไปเป็นนักบินผู้ช่วย

เพราะหวังว่าจะหยุดการบินที่อันตรายของเขาได้

อย่างเช่นเคย
เขาได้พยายามเลี้ยวในมุมลึกเกินกว่าที่ควรจะเลี้ยว
ในรอบแรก ไม่เกิดอะไรขึ้น

แมคกีแฮนได้พยายามเตือนถึงความมุทะลุของบัดอยู่หลายรอบ

แต่มันยิ่งทำให้บัดบ้าบิ่นที่จะบินเกิดขีดสุดมากยิ่งขึ้น

ความเร็วของเครื่องบินยังไม่ทันกลับมา
เขาได้ทำการเลี้ยวที่มุมลึกอีกครั้ง

ปีกสูญเสียแรงยก หรือที่เรียกว่า Stall ในทันที
เครื่องดิ่งลงพื้นอย่างรวดเร็ว

ปีกชนเข้ากับสายไฟฟ้า
ตามด้วยหัวเครื่องกระแทกกับพื้นดิน

เกิดเป็นไฟลุกโชนขนาดใหญ่
ต่อหน้าต่อตาญาติครอบครัวและผู้ที่มาชมการบิน
(วีดีโออุบัติเหตุ : https://youtu.be/pJGMl1-fsbg)

จากในรูปเราจะเห็นในวงกลมว่า
มาร์ค ได้พยายามดีดตัวออกจากเครื่อง
แต่ความสูงนั้นไม่เพียงพอ

ทุกคนบนเครื่อง 4 คน เสียชีวิตทั้งหมด
มีคนบนพื้นได้รับบาดเจ็บ 1 คน

บัด ฮอลแลนด์ เสียชีวิตโดยไร้ซึ่งการสรรเสริญ

กองทัพอากาศสหรัฐ เริ่มมีมาตรการ
กับ “นักบินหัวแข็ง”

เกือบทั่วโลกยกเรื่องนี้ให้เป็นตัวอย่างของคำว่า “Macho”
และนำไปเป็นบทเรียนสอนนักบินทุกคน

เราสามารถเปรียบคนแบบนี้
ไม่ใช่แค่ในวงการนักบิน

แต่มันแพร่กระจายไปทั่วทุกที่ทำงาน
หรือชีวิตประจำวัน

แล้วเราควรทำอย่างไรกับคนแบบนี้?
ก่อนที่จะมาพรากชีวิตและอนาคตของเราไป


วีดีโอข่าวการตก รวมถึงการบินที่บ้าบิ่นของเขาในเที่ยวบินก่อนหน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุ :
https://youtu.be/LgJl7b9bQH0

ที่มา เพจ I'm from Andromeda

0 ความคิดเห็น: