ในช่วงที่กำลังคิดว่า จะเอาเรื่องอะไรมาเขียนแบ่งปันเพื่อนๆ ดี พลันก็นึกออกถึงเรื่องๆ หนึ่งขึ้นมา
ทำให้ย้อนรำลึกถึงวันวาน สมัยที่ยังเป็นนักศึกษาหนุ่ม ซึ่งผมเองเป็นคนที่มีนิสัยแปลกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ค่อยชอบสังสรรค์เฮฮากับหมู่เพื่อนๆ สักเท่าไหร่ แต่กลับชอบการแบกเป้ไปเที่ยวคนเดียวซะมากกว่า โดยการไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่ผมไม่เคยไป ด้วยบริการรถประจำทางสาธารณะสุดฮิตที่สุดสำหรับผม นั่นก็คือ "รถไฟ"
ย้อนเวลากลับไปเกือบ 10 ปีที่แล้ว ในปี 2551 ผมเพิ่งจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 ในตอนนั้น ความรู้สึกของผม ก็รู้สึกดีใจเหมือนปลาได้น้ำนั่นแหละครับ รู้สึกว่ามีอิสระ จะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ ตามแต่ใจตัวเองอยากจะไป
ในตอนนั้น การจะไปเที่ยวที่ไหนสักที่หนึ่ง ไม่ใช่เป็นเรื่องยากอะไรเลย อยากจะไปที่ไหน เวลาใด ก็ได้ แค่เตรียมเงินไว้ให้พอ แล้วแพ็คกระเป๋าไว้ให้พร้อม ก็ออกลุยกันเลย
ในสมัยนั้น เทคโนโลยี ยังไม่ได้ก้าวหน้าเหมือนสมัยนี้นะครับ โทรศัพท์มือถือก็ยังไม่ได้อัพเกรดเป็นสมาร์ทโฟนเหมือนปัจจุบัน เพราะฉะนั้น หมดหวังที่จะพึ่ง GPS ล่ะครับ ต้องลงทุนเข้าร้านหนังสือ กวาดสายตาหาซื้อแผนที่ดีๆ สักเล่มหนึ่งไว้เป็นแผนที่คู่ใจ ซึ่งแผนที่ที่ผมถูกใจมากที่สุดและยังใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ก็คือ แผนที่ทางหลวง ที่ออกโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยนี่แหละครับ โดยตัวของแผนที่นั้น จะเป็นแผ่นขนาดใหญ่ ทำให้ดูง่าย และมีรายละเอียดครบ แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดใหญ่ แต่พับเข้ารูปได้ขนาดที่พอดี พกพาสะดวก ถูกใจผมสุดๆล่ะครับ
อีกทักษะหนึ่งที่ควรมีและขาดไม่ได้เลย ในการเที่ยวของผมก็คือ การแพ็คกระเป๋าแบบขั้นเทพ คือทำยังไงก็ได้ครับ ให้สิ่งของทุกอย่างที่จำเป็น สามารถที่จะยัดลงในกระเป๋าเป้เพียงใบเดียวได้ โดยกระเป๋าเป้ของผม ก็ไม่ใช่เป้เดินทางขนาดใหญ่อะไรนะครับ เพราะด้วยงบประมาณที่มีจำกัด กอปรกับต้องการความคล่องตัวในการเดินทาง เพราะจากประสบการณ์แล้ว ในหลายๆครั้ง ก็จำเป็นต้องเดินเท้าเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรเหมือนกัน การที่เราจะต้องเดินทางไกลและแบกเป้ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากๆ เห็นทีจะไม่ไหวเหมือนกันนะ
การเดินทางท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของผม จะเดินทางโดยรถไฟเป็นหลักครับ ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นการเดินทางที่ประหยัดมากๆ นโยบายรถไฟฟรีช่วยประชาชนนี่เองล่ะฮะ พระเอกของผม ทำให้ประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะเลยล่ะ
จะว่าไปแล้ว การเที่ยวในแบบของผมนี่ มันก็ไม่ยากเลยครับ นั่งรถไฟเดินทางไปเรื่อยๆ เที่ยวไหนก็ได้ที่รถไฟผ่าน อยากลงสถานีไหนก็ลง อยากเที่ยวไหนก็เที่ยว ส่วนเรื่องหลับนอน ก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ส่วนใหญ่ก็อาศัยนอนตามสถานีรถไฟนี่ล่ะครับ ง่ายที่สุดละ ยุงอาจจะเยอะไปนิด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรครับ ก็อาศัยยาทากันยุงนี่ล่ะ หาซื้อตามเซเว่นอีเลฟเว่น ซองละ 5 บาท ใช้คุ้มดีจริงๆ
ว้า!! น่าเสียดายจังนะครับ ที่ต้องจบตอนที่ 1 เพียงแค่นี้
กลายเป็นว่าแทนที่จะจบภายในตอนเดียว กลับต้องมีตอนต่อไปซะแล้วล่ะครับ
แต่สุดท้ายนี้ ต้องขอบอกเลยนะครับว่า การเที่ยวในแบบของผม แม้มันไม่สะดวกสบายเอาซะเลย แต่มันกลับทำให้ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ส่วนจะทำให้มีความสุขยังไงนั้น ก็ต้องติดตามเรื่องราวต่างๆกันในตอนหน้าเอานะครับ
สวัสดีครับ
Wanchai Phumpha
0 ความคิดเห็น: