ช่วงเวลานั้นที่ฉันกำลังเดินผ่านแคชเชียร์แผนกตุ๊กตา
ก็ได้ยินเสียงพนักงานพูดกับเด็กชายตัวน้อยๆ คนหนึ่ง ว่า
"เงินไม่ครบนะจ๊ะ ไปหาเงินให้ครบก่อนแล้วค่อยมาซื้อใหม่นะ"
เด็กชายตอบว่า
"ช่วยลองนับใหม่อีกทีได้รึเปล่าครับ"
แคชเชียร์จึงลองนับดูใหม่อีกครั้งตามคำขอ ซึ่งก็ไม่ครบเหมือนเดิม
จึงบอกกับเด็กน้อยไปว่า
"เงินมันไม่ครบจ๊ะ ไว้มีครบแล้วค่อยมาใหม่นะจ๊ะ"
เด็กน้อยยังคงถือตุ๊กตาไว้แน่น
***********
ฉันจึงเข้าไปถามเด็กน้อยคนนั้นว่า
"หนูอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้มากเลยเหรอจ๊ะ"
เด็กน้อยตอบกลับมาว่า
"พี่สาวผม เค้าชอบและอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้มากครับ"
"ผมต้องการให้เป็นของขวัญวันเกิดพี่ ผมจะเอาไปให้แม่
เพราะแม่สามารถเอาไปให้พี่เค้าได้"
แววตาของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
และพูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
"พี่สาวผม เค้าไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว.."
"พ่อผมบอกว่า แม่ก็กำลังจะตามไปเร็วๆนี้
ผมเลยตั้งใจจะฝากแม่ผมไปให้พี่"
ฉันฟังแล้วหัวใจแทบหยุดเต้น
เด็กน้อยมองมาที่ฉัน และพูดต่อว่า
"ผมบอกพ่อว่า อย่าเพิ่งให้แม่ไปจนกว่าผมจะกลับมาจากห้าง"
จากนั้นเด็กน้อยให้ดูรูปๆหนึ่ง
เป็นรูปของเขากับพี่สาวกำลังหัวเราะกันอย่างมีความสุข แล้วเล่าต่อว่า
"ผมอยากเอารูปนี้ ฝากให้แม่ไปด้วย เอาไปให้พี่สาวผม เค้าจะได้ไม่ลืมผม"
"ผมไม่อยากให้แม่จากไปเลย แต่พ่อบอกว่าแม่ต้องไปหาพี่"
พูดจบเด็กน้อยก็ก้มมองตุ๊กตาด้วยใบหน้าน้ำตาไหลนอง
ทุกอย่างเงียบสนิท
ครั้นตั้งสติได้ ฉันก็ควักกระเป๋าสตางค์
และถามแคชเชียร์ว่า
"ยังขาดอีกเท่าไหร่คะ"
แล้วฉันก็จ่ายเงินส่วนที่ขาดให้
เด็กน้อยจึงพูดขึ้นมาว่า
"ขอบคุณพระเจ้า!!"
เด็กน้อยมองหน้าฉันแล้วเล่าให้ฟังว่า
"เมื่อคืน ผมวิงวอนขอจากพระเจ้าให้มีเงินซื้อตุ๊กตานี้
เพื่อที่จะฝากแม่ไปให้พี่สาวผม
และผมยังขอดอกกุหลาบสีขาว ซึ่งแม่ผมชอบมากไว้ด้วย
ผมรู้สึกได้ พระเจ้าบอกให้ผมมาที่นี่
แต่ผมไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านั้น"
**********
หลังจากเดินห้างเสร็จ
ในหัวฉันยังคงคิดวนไปวนมาแต่เรื่องของเด็กน้อย
และก็นึกขึ้นได้ถึงข่าวในหนังสือพิมพ์ของสองวันก่อน
เป็นข่าวอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกับรถเก๋ง
ในรถเก๋งเด็กหญิงตายในที่เกิดเหตุ และคุณแม่อาการหนัก
ส่วนฝ่ายรถบรรทุกบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
ตรวจสอบแล้ว คนขับรถบรรทุกเมาแล้วขับ
ซึ่งตอนนี้ คุณพ่อของเด็กหญิงที่ตาย อยู่ที่โรงพยาบาลดูอาการ
ของแม่เด็กหญิงที่ตายและตัดสินใจ จะให้หมอถอดสายช่วยชีวิตออก
เนื่องจากอาการหนักมากๆ ไม่สามารถรักษาได้
ทำได้เพียงรั้งชีวิตไว้ให้ได้นานที่สุด
ซึ่งคนไข้จะทรมานมาก
ฉันก็เริ่มคิดว่า
คนในข่าวนี้ ใช่ครอบครัวของเด็กน้อยในวันนี้รึเปล่า?
สองวันหลังจากนั้น ฉันก็ได้ทราบข่าวว่า
คุณแม่คนนั้นได้เสียชีวิตแล้ว
ด้วยความคาใจว่าใช่ครอบครัวของเด็กน้อยในวันนั้นหรือเปล่า
ฉันจึงลองหาข้อมูลของผู้ตาย
โดยการสอบถามจากคนละแวกนั้นว่า
ผู้ตายทำพิธีศพที่ไหน?
และในที่สุดฉันก็ตามไปจนเจอ
************
สิ่งที่ฉันพบจากหลุมฝังศพผู้หญิงในข่าวก็คือ
>>>>>>>>
รูปภาพประดับบนโลงศพ
เป็นรูปเธอยืนถือช่อกุหลาบสีขาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข
รูปภาพของเด็กชายกับเด็กหญิง กำลังหัวเราะกันอย่างร่าเริง และ
ตุ๊กตาหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับตัวที่เด็กน้อยซื้อไปในวันนั้น
ฉันเดินออกจากสถานที่นั้น ด้วยความรู้สึกเหมือนมีใครมาบีบหัวใจไว้
และไม่อยากจะเชื่อว่า เด็กน้อยคนนั้นจะเป็นลูกของเธอจริงๆ
ฉันได้แต่คิดถึงความรักของเด็กน้อยที่มีต่อแม่และพี่สาวของเขา
และสิ่งที่ทำลายทุกอย่างของเด็กน้อยผู้นี้คือ
ความเห็นแก่ตัวของผู้ที่เมาแล้วขับ
มันได้ทำลายทุกอย่างไปจากเขา
**เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ**
0 ความคิดเห็น: